Rockwool หรือ ใยหิน คืออะไร?
อย่างที่หลายท่านได้ทราบไปแล้วก่อนหน้านี้ว่าฉนวนใยหินนั้นมีคุณสมบัติมากมายหลายหลากขนาดไหน จาก บทความ ฉนวนร็อควูล ฉนวนใยหิน คือ อะไร?
แต่ถ้าท่านใดยังไม่เคยรู้จัก ฉนวนใยหิน มาก่อน FATEK Group ของเราก็มีคำอธิบายสั้น ๆ ให้แก่ท่าน
ฉนวนใยหิน คือ วัตถุดิบที่ได้มาจากธรรมชาติ ซึ่งต้นกำเนิดนั้นมาจากหินภูเขาไฟที่ปะทุออกมานั่นคือหินบาซอลท์
โดยใยหิน นั้นใช้หินปูนและหินบาซอลท์ นำมาหลอมรวมในเตาเผาที่ใช้ถ่านโค้กเป็นเชื้อเพลิง ด้วยอุณภูมิที่สูงกว่า 1,300 องศาเซลเซียส วัสดุที่ถูกหลอมนั้นจะถูกปั่นให้กลายเป็นเส้นใยหิน และนำมาใช้ในอุตสาหกรรมก่อสร้างอย่างแพร่หลาย
ได้ทำความรู้จัก ใยหิน กันไปคร่าว ๆ แล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่ใครหลาย ๆ คน รวมไปถึงตัวผู้เขียนเองก็เพิ่งได้ทราบ ถึงประโยชน์อีกหนึ่งอย่างของเจ้าร็อควูล สิ่ง ๆ นั้นก็คือ ฉนวนใยหิน สามารถนำมาใช้ในการเพาะปลูกพืช และต้นไม้ได้ด้วย
ทำไมจู่ ๆ ใยหินจึงถูกนำมาเป็นวัสดุเพาะปลูก? แล้วมีข้อดีอย่างไร? มาหาคำตอบกันดีกว่า
ทำไม Rockwool Cube จึงถูกนำมาเป็นวัสดุเพาะปลูก?
อย่างที่ทราบกันไปแล้วว่า ใยหิน นั้นได้มาจากหินภูเขาไฟที่ปะทุออกมาแล้วจึงค่อยนำมาแปรรูป ดังนั้นแร่ธาตุต่าง ๆ ที่อยู่ใน ร็อควูล จึงมีมากมายหลายอย่าง และแร่ธาตุเหล่านั้นเป็นแร่ธาตุสำคัญที่พืชต้องการ แล้วด้วยตัวของใยหินนั้นมีลักษณะที่อุ้มน้ำได้อย่างดี ทั้งหมดนี้ ใยหิน จึงเหมาะสมกับการนำมาเป็นวัสดุเพาะปลูก
โดยในปัจจุบัน ใยหิน มีการถูกตัดและอัดขึ้นรูปหลากหลายขนาด เพื่อให้สะดวกและเหมาะสมกับการเพาะปลูกพืช ใยหินแบบนี้มีเชื่อเรียกว่า Rockwool Cubes หรือ ก้อนใยหิน
ก้อนใยหิน นั้นประกอบไปด้วยแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อพืช ดังนี้ ซิลิกอนไดออกไซด์ (SiO2), อะลูมิเนียมออกไซด์ (Al2O3), แคลเซียมออกไซด์ (CaO) , แมกนีเซียมออกไซด์ (MgO) และ ธาตุเหล็ก (Fe)
นอกจากนี้ยังมีหินปูน และถ่านหินซึ่งเป็นวัสดุสะอาด สามารถดูดซับน้ำได้ดี ปราศจากเชื้อโรค มีปริมาตรช่องว่าง 97% มีการปลดปล่อยธาตุแคลเซียม, แมกนีเซียม รวมไปถึง โซเดียม เล็กน้อย
ใยหิน เป็นวัสดุที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพที่ดีต่อพืช นิยมใช้เป็นวัสดุชำและวัสดุปลูก ในแถบทวีปยุโรป, อเมริกาและออสเตรเลีย โดยในต่างประเทศมีการทดลองนำใยหินมาผสมกับวัสดุปลูกชนิดอื่น เช่น พีทมอส, เวอมิคูไลท์, เพอไลท์ มีการผสมใยหินในสัดส่วน 10, 20 และ 30% ตามลำดับ
ผลการทดลองปรากฏว่าดินที่ผสมใยหิน 20% นั้นทำให้ต้นพืชที่ทดสอบเจริญเติบโตได้ดีที่สุด ในประเทศไทยก็เริ่มมีการใช้ใยหินมาเพาะปลูกเช่นเดียวกัน โดยมีการใช้ใยหินล้วน ๆ เพียงอย่างเดียว และการใช้ร่วมกับวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรอื่น ๆ มาผสมเป็นวัสดุปลูกพืช เช่น มะเขือเทศ หรือแคนตาลูป
การใช้เทคโนโลยีแบบไฮโดรโปนิกส์ โดยใช้ใยหินภูเขาไฟในการเพาะปลูก นั้นมีความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะสามารถนำน้ำส่วนที่เกินความจำเป็นหมุนกลับมาใช้ใหม่ได้ นั่นหมายความว่ามีการใช้น้ำลดลงถึง 50 เปอร์เซ็นต์
รวมไปถึงเทคโนโลยีที่ทันสมัยยังช่วยให้การเพาะปลูกมีความเที่ยงตรงมากขึ้น สามารถตรวจวัดน้ำ, ควบคุมปริมาณน้ำ และปริมาณปุ๋ยได้อีกด้วย
ข้อดี ของการใช้ Rockwool Cube ปลูกต้นไม้มีอะไรบ้าง?
นอกจากนี้ ก้อนใยหิน ยังมีประโยชน์และข้อดีอีกหลายอย่าง ที่เหมาะกับการเป็นวัสดุปลูกที่ดี
– มีสารอาหารที่พืชต้องการอย่างครบถ้วน: ใยหินนั้นมีแร่ธาตุที่ประกอบไปด้วย ซิลิกอนไดออกไซด์ (SiO2), อะลูมิเนียมออกไซด์ (Al2O3), แคลเซียมออกไซด์ (CaO) , แมกนีเซียมออกไซด์ (MgO),ธาตุเหล็ก (Fe) และ อื่น ๆ อีกมายมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่มีประโยชน์ต่อพืชทั้งสิ้น
– มีความพรุนสูง 98% ทำให้เก็บอากาศ และเก็บน้ำได้ดี: เนื่องจากมีความพรุนสูง ทำให้มีน้ำและอากาศถูกกักเก็บอยู่ภายในก้อนใยหิน และมีปริมาณที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตของพืช ก้อนใยหินสามารถอุ้มน้ำได้ถึง 70 – 80 % ทำให้เหมาะสมกับการทำฟาร์มไฮโดรโปนิกส์ที่สุด
– ป้องกันไม่ให้รากของพืชแห้ง พร้อมกับการมีอากาศให้รากได้หายใจ: เนื่องจากลักษณะทางกายภาพของก้อนใยหินนั้นสามารถระบายน้ำส่วนเกินได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้มีช่องว่างที่สามารถให้อากาศแทรกเข้ามา ให้รากได้หายใจ มีอากาศหมุนเวียนอยู่ตลอด
– ไม่ทำปฏิกิริยาทางเคมีกับธาตุอาหารของพืช: เนื่องจากผลิตมาจากธรรมชาติ จึงไม่มีสารเคมีที่สามารถเป็นอันตรายต่อพืช ปลอดภัยทั้งกับรากและลำต้น นอกจากนี้ยังมีภูมิคุ้มกันเชื้อจุลินทรีย์ เป็นวัสดุที่ปลอดโรคและแมลง จึงไว้วางใจได้ว่าพืชที่เพาะปลูกจะไม่เป็นอันตรายอย่างแน่นอน
– สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้: ในฐานะที่เป็นอนุพันธ์ของหิน ใยหินจึงไม่แตกหัก หรือสึกกร่อนเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นจึงสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายครั้งด้วยกัน แต่แนะนำให้ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อโรคด้วยความร้อน ไม่ว่าจะต้มหรือนึ่งก่อนที่จะนำมาใช้ใหม่อีกครั้ง
การปลูกพืชใน Rockwool Cubes ทำอย่างไร?
ขั้นตอนการเตรียมการ: เนื่องจากก้อนใยหินนั้นมีค่า pH หรือความเป็นกรดด่าง โดยก้อนใยหินมีความเป็นด่างสูงมากตามธรรมชาติ อยู่ที่ระดับ 7.5-8.5 ซึ่งอาจจะยังไม่เหมาะกับการนำมาเพาะปลูกพืชในทันที ค่า pH ที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกควรจะอยู่ที่ 5-7 จะดีที่สุด จึงต้องนำก้อนใยหินไปปรับค่าความเป็นกรดด่างก่อนนั่นเอง
วิธีการปรับค่า pH อย่างง่ายคือการนำก้อนใยหินที่เราต้องการใช้เป็นวัสดุเพาะปลูกมาแช่น้ำให้ท่วม และบีบมะนาวลงไปเพื่อปรับค่าความเป็นด่างให้กลับมาอยู่ที่ปกติ และแช่ทิ้งไว้ครู่หนึ่ง การแช่น้ำที่ผสมกับน้ำมะนาวเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอต่อการปรับค่าความเป็นด่างให้กลับมาเหมาะสมกับการเพาะปลูกแล้ว
การหว่านเมล็ด: สามารถนำเมล็ดพืชที่ต้องการเพาะพันธุ์มาใส่ลงในหลุมของก้อนใยหินที่ชุ่มน้ำ ประมาณ 2-3 เมล็ดต่อ 1 หลุม เมื่อต้นอ่อนงอกสูงออกมาประมาณ 2-3 นิ้ว ก็สามารถนำต้นอ่อนไปปลูกลงดิน ปลูกในสวนไฮโดรโปนิกส์ หรือแม้แต่การปลูกในก้อนใยหินต่อไปก็สามารถทำได้
โดยก้อนใยหินนั้นเหมาะสมมากที่จะเป็นสารตั้งต้นของฟาร์มไฮโดรโปนิกส์ หรือแม้แต่การเพาะปลูกในครัวเรือน ไม่ว่าจะเป็นการปลูกแบบขวดโหล หรือแบบทำเป็นระบบเพาะปลูกในระบบใหญ่ ๆ ซึ่งการใช้ก้อนใยหินในการปลูกจะทำให้พืชของคุณมีความแข็งแรง ได้สารอาหารที่ครบถ้วน และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
หากว่าท่านสนใจผลิตภัณฑ์แผ่นฉนวนสำเร็จรูปที่มีไส้ฉนวนเป็น ใยหิน ที่มีคุณสมบัติที่หลากหลายในหลาย ๆ ด้าน สามารถติดต่อสอบถามทาง FATEK Group ของเราได้ทุกช่องทาง เราพร้อมจะดูแลทุกท่านอย่างสุดกำลัง
ที่มาข้อมูล: Dutch Agrotech Co., Ltd., Rockwool Growing Medium
โรงงานผู้ผลิต และจำหน่ายแผ่นฉนวนใยหิน ร็อควูล ฉนวนกันความร้อน ไม่ลามไฟ กันเสียง เก็บเสียง และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดย FATEK Group